นับตั้งแต่จุดเริ่มต้น La Casa Modular ได้นำจิตวิญญาณของการออกแบบอินโดนีเซียดั้งเดิมสู่อนาคต โดยผสมผสานภูมิปัญญาทางสถาปัตยกรรมอันไร้กาลเวลาเข้ากับความต้องการที่ใช้งานได้จริงในยุคใหม่ โครงสร้างของเราได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านกลาดัก (Gladak) ถูกสร้างขึ้นเพื่อปรับตัว เคลื่อนย้าย และเติบโตไปพร้อมกับชีวิต หยั่งรากในวัฒนธรรม ออกแบบเพื่อปัจจุบัน
นานมาแล้วก่อนที่คอนกรีตและเหล็กจะเข้ามาสร้างเมือง ผู้คนในเมืองโบลราอาศัยอยู่อย่างใกล้ชิดกับผืนป่า พวกเขาสร้างบ้านจากไม้สักในท้องถิ่นและปรับตัวให้เข้ากับภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ แต่การใช้ชีวิตในป่าก็มาพร้อมกับความท้าทาย: พื้นที่ไม่เรียบ, สภาพอากาศชื้น, และเครื่องมือการก่อสร้างที่จำกัด ทำให้การสร้างโครงสร้างถาวรเป็นเรื่องยาก
เพื่อปรับตัว พวกเขาได้พัฒนาบ้านกลาดัก (Gladak) ซึ่งเป็นบ้านยกพื้นสูงเพื่อหลีกเลี่ยงความชื้นและสัตว์ป่า และออกแบบมาให้สามารถรื้อถอนและย้ายที่ได้เมื่อจำเป็น พื้นที่ส่วนกลางใช้สำหรับเก็บข้าว ส่วนด้านหลังมักใช้เป็นคอกวัว บ้านเหล่านี้สร้างจากไม้ทั้งหลัง ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกและเรียบง่ายแต่ใช้งานได้หลากหลาย
แม้จะดูเรียบง่าย แต่บ้านกลาดักสะท้อนถึงความเชื่อของชาวชวาที่หยั่งรากลึก: ความไม่เที่ยง, ความกลมกลืนกับธรรมชาติ, และการใช้เท่าที่จำเป็น เป็นโครงสร้างที่เกิดจากความจำเป็น แต่ชี้นำโดยคุณค่าทางวัฒนธรรม
บ้านกลาดัก
แม้ว่าบ้านกลาดักจะปรับตัวได้ดีในยุคนั้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เมื่อวิถีชีวิตเปลี่ยนไป ความต้องการใหม่ๆ ก็เกิดขึ้น: ความสะดวกสบายที่ดีขึ้น, ประสิทธิภาพด้านพลังงาน, และวิธีการก่อสร้างที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โครงสร้างที่ทำจากไม้เพียงอย่างเดียวขาดฉนวนและความทนทานในระยะยาว และการย้ายบ้านก็ต้องใช แรงงานคนจำนวนมาก
ความท้าทายเหล่านี้ได้กำหนดทิศทางใหม่ ด้วยแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณของบ้านกลาดัก: ความสามารถในการเคลื่อนย้าย, ความเรียบง่าย, และความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อสถานที่, การสร้างบ้านแบบโมดูลาร์จึงเป็นคำตอบของยุคใหม่ ด้วยวัสดุที่แข็งแรงขึ้น, การผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่ควบคุมได้, และการประกอบที่มีประสิทธิภาพ, การออกแบบโมดูลาร์ทำให้สามารถสร้างบ้านที่ทั้งยืดหยุ่นและพร้อมสำหรับอนาคต โดยไม่สูญเสียจิตวิญญาณทางวัฒนธรรมไป
คอลเลกชันแรกของเรารวมโครงสร้างไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเข้ากับการตกแต่งภายในที่เรียบง่ายสะอาดตา ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมเขตร้อนและวัสดุดั้งเดิม แต่ละยูนิตออกแบบให้มีพื้นยกสูง, แปลนเปิดโล่ง, และการไหลเวียนอากาศแบบพาสซีฟ เพื่อให้บ้าน “หายใจ” ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับบ้านกลาดัก
เรายังได้นำเสนอวัสดุใหม่ๆ เช่น แผ่นคอมโพสิต ซึ่งทำจากพลาสติกรีไซเคิลและฝุ่นไม้สัก นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะ แต่ยังสร้างส่วนประกอบที่แข็งแรงขึ้น, ทนต่อสภาพอากาศ, และต้องการการบำรุงรักษาน้อยลง โดยไม่สูญเสียความอบอุ่นของไม้ธรรมชาติไป
เมื่อปรัชญาการออกแบบของเราเติบโตขึ้น เราได้กลับสู่รากเหง้าของเราอีกครั้งด้วยซีรีส์ Gladak Reimagined โมเดลเหล่านี้ผสมผสานโครงไม้สักแท้เข้ากับแปลนแบบโมดูลาร์ เป็นการให้เกียรติอดีตพร้อมตอบสนองความต้องการในปัจจุบัน
หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นคือการเพิ่มแผงตกแต่งแกะสลักด้วยมือ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากงานแกะสลักแบบฉบับจ็อกจา (Jogja) จากชวากลาง ลวดลายดอกไม้และพืชพรรณที่พริ้วไหวเหล่านี้ ซึ่งมักพบเห็นได้ในกระตอน (พระราชวัง), วัด, และอาคารคลาสสิก เป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ, ชีวิต, และความสมดุล ซึ่งมีรากฐานมาจากหลักสมมาตรและความสามัคคีของชวาและฮินดู-พุทธ
เนื่องจากรากเหง้าของเรามาจากบ้านกลาดักแห่งจ็อกจา งานแกะสลักเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความงดงามทางสายตา แต่ยังสร้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม เปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยให้กลายเป็นสิ่งที่มีความหมายอย่างลึกซึ้ง
ในวันนี้ เรายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทิ้งรากเหง้าของเรา โครงสร้างของ LCM แต่ละหลังไม่ได้ออกแบบมาให้สวยงามไร้กาลเวลาเท่านั้น แต่ยังตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันที่ใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองที่หนาแน่น, บนเกาะห่างไกล, หรือกลางป่าลึก
เรามุ่งเน้นการก่อสร้างที่ชาญฉลาดซึ่งลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด, ใช้วัสดุที่ทนทานและต้องการการบำรุงรักษาต่ำ, และแปลนแบบโมดูลาร์ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป ตั้งแต่บ้านพักตากอากาศไปจนถึงที่อยู่อาศัยระยะยาว
ผู้คนในปัจจุบันต้องการบ้านที่ผ่านการคิดมาอย่างดี, ยืดหยุ่น, และหยั่งรากลึกในความหมาย การออกแบบของเราสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงนั้น โดยสืบสานจิตวิญญาณของบ้านกลาดัก พร้อมมอบความสะดวกสบาย, ความยั่งยืน, และความเรียบง่ายในทุกรายละเอียด
Escape Nomade มีฐานที่ตั้งอยู่ในบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เป็นผู้บุกเบิกไลฟ์สไตล์ ‘การใช้ชีวิตไร้กำแพง’ (Living Without Walls) ที่จะปลดปล่อยคุณจากข้อจำกัดของการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ และให้คุณได้ใช้ชีวิตนอกกรอบที่คุ้นเคย ‘การใช้ชีวิตไร้กำแพง’ คือแนวคิดที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งผสมผสานจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม, ความสะดวกสบายที่หรูหรา, และประสิทธิภาพในการทำงานที่ยืดหยุ่นได้อย่างลงตัว
ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในธุรกิจ เราได้ทำโครงการเต็นท์หรูหราสำเร็จไปแล้วกว่า 350 โครงการ ทั้งในวิลล่า, รีสอร์ท, ร้านอาหาร, คาเฟ่, สปา, ร้านเสริมสวย, สตูดิโอโยคะ, สถานที่จัดอีเวนต์, ที่พักอาศัย, และอื่นๆ ในกว่า 55 ประเทศทุกสภาพอากาศทั่วโลก
เบื้องหลังความสำเร็จคือความร่วมมือสุดพิเศษระหว่างทีมออกแบบชาวดัตช์, การจัดการแบบสวิส, และช่างฝีมือชาวอินโดนีเซีย ซึ่งรับประกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด, การส่งมอบงานตรงเวลา, ความทนทาน, และความเป็นโมดูลาร์ จากรากฐานนี้ La Casa Modular จึงได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อนำเสนอบ้านสำเร็จรูปที่ผสมผสานการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ากับการออกแบบที่ปรับเปลี่ยนได้และมีประสิทธิภาพ โดยไม่ลดทอนคุณภาพ
